ปี ค.ศ. 1762 มาร์ชีโน เด ออนเดร ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์และทหารชาวฟิลิปปินส์ ได้จุดประกายกบฏครั้งใหญ่ที่ภายหลังถูกเรียกว่า “กบฏซามาล” ขെയลขัยนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ชนบทของจังหวัดซามาลทางตะวันออกของเกาะลูซอน ฟิลิปปินส์
เหตุการณ์นี้เป็นการต่อต้านการปกครองของสเปนอย่างรุนแรง โดยชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากที่ไม่พอใจต่อภาษีที่หนักและการกดขี่จากชนชั้นสูงของสเปน กบฏซามาลมีสาเหตุสำคัญหลายประการ:
-
การเสียชีวิตของชาวฟิลิปปินส์: ระบบการเกณฑ์ทหารของสเปนในช่วงเวลานั้นถือว่าไม่เป็นธรรมและโหดร้าย ชาวฟิลิปปินส์ถูกบังคับให้ทำงานหนักในเหมือง และหลายคนเสียชีวิตจากความเหนื่อยล้าและโรคภัย
-
การเก็บภาษีที่มากเกินไป: ชาวนาส่วนใหญ่ต้องจ่ายภาษีที่สูงอย่างไม่สมเหตุผล ซึ่งทำให้พวกเขายากจนและขัดสน
-
การจำกัดสิทธิ์ของชาวฟิลิปปินส์:
ชาวฟิลิปปินส์ถูกปฏิบัติต่างจากชาวสเปนในเกือบทุกด้าน พวกเขาถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองและศาสนา และถูกปฏิเสธสิทธิในการศึกษาที่เหมาะสม
- การลักลอบค้าขาย: การควบคุมการค้าของสเปนอย่างเข้มงวดทำให้ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากหันไปค้าขายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนำไปสู่การลงโทษและการกดขี่
จุดเริ่มต้นของกบฏซามาล
De Ondare ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับการศึกษาดี และมีทักษะในการใช้ปืนใหญ่ ได้รวรวมชาวบ้านที่หงุดหงิดและต้องการความเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ เขายังได้รับการสนับสนุนจากชนชั้นสูงของฟิลิปปินส์บางส่วนที่เห็นด้วยกับการต่อต้านสเปน
กบฏเริ่มต้นขึ้นเมื่อ De Ondare และผู้ติดตามของเขาโจมตีเมืองหลวงของจังหวัดซามาล ในเดือน พฤศจิกายน ค.ศ. 1762
ช่วงระยะเวลาของกบฏและผลลัพธ์ที่ตามมา
กบฏซามาลดำเนินต่อไปเป็นเวลาเกือบสองปี ชาวฟิลิปปินส์ภายใต้การนำของ De Ondare ก่อวีรกรรมอันกล้าหาญในการต่อสู้กับกองทัพสเปน แม้ว่าพวกเขาจะขาดอาวุธและความช่วยเหลืออย่างเพียงพอ แต่ความมุ่งมั่นและความรักชาติของพวกเขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้ชาวฟิลิปปินส์คนอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม กบฏซามาลไม่สามารถเอาชนะกองทัพสเปนได้ในที่สุด De Ondare ถูกสังหารในปี ค.ศ. 1764 และกองทัพของเขาก็ถูกปราบปราม
ผลกระทบต่อชาวฟิลิปปินส์
แม้ว่ากบฏซามาลจะล้มเหลวในการให้เอกราชแก่ฟิลิปปินส์ แต่ก็ยังคงเป็นเหตุการณ์ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์
- กบฏนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจของชาวฟิลิปปินส์ต่อการปกครองของสเปน และปลูกฝังความรู้สึกชาตินิยมในหมู่ประชาชน
- มันเป็นตัวอย่างแรกของการต่อต้านที่เป็นระเบียบและมีกลยุทธ์โดยชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งส่งผลต่อการต่อสู้เพื่อเอกราชในภายหลัง
กบฏซามาลเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทั้งผู้ปกครอง และผู้ถูกปกครอง ว่าความอยุติธรรมและการกดขี่สามารถจุดชนวนความไม่พอใจได้ และนำไปสู่การต่อสู้เพื่ออิสรภาพ
ตาราง: แนวโน้มของการต่อต้านสเปนในฟิลิปปินส์
เหตุการณ์ | ปี | คำอธิบาย |
---|---|---|
กบฏซามาล | 1762-1764 | การก่อกบฏที่นำโดย Marciano de Ondare เพื่อต่อต้านการปกครองของสเปน |
| กบฏฟิลิปปินส์ (Philippine Revolution) | 1896-1898 | การต่อสู้เพื่อเอกราชครั้งใหญ่ที่นำโดย Andrés Bonifacio และ Emilio Aguinaldo |
บทสรุป
กบฏซามาลเป็นการจดจำความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของชาวฟิลิปปินส์ในอดีต ซึ่งยืนหยัดต่อการกดขี่ และต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ในแง่หนึ่ง อาจมองว่าเป็นการพ่ายแพ้ แต่ในอีกด้านหนึ่ง เป็นการจุดประกายไฟแห่งความหวัง และแรงบันดาลใจให้ชาวฟิลิปปินส์ในรุ่นต่อ ๆ มาสานต่อความฝันในการได้รับอิสรภาพ
แม้ว่ากบฏซามาลจะไม่ประสบความสำเร็จในทันที แต่ก็เป็นก้าวสำคัญในการต่อสู้เพื่อเอกราชของฟิลิปปินส์ ซึ่งนับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นประเทศที่อิสระในปัจจุบัน